My Cozy Living Space : คืนชีวิตให้คอนโดเก่า

สำหรับท่านใดต้องการลงบทความเกี่ยวบ้าน คอนโด ทาวน์โฮม และอื่นๆ สามารถส่งมาให้ทางเรา ทางเรายินดีลงในเว็บไซต์เพื่อเผยแพร่บทความ สามารถติดต่อที่ [email protected]

เมื่อช่วงต้นปีผมได้ซื้อคอนโดมือสองเเละได้ทำการเเต่งห้องใหม่ เลยเอามาเเชร์ให้ดูเผื่อเป็นข้อมูลสำหรับคนที่คิดจะเเต่งห้องใหม่ครับ

มาดูสภาพห้องก่อนเเต่งกันครับ ตัวห้องยังโอเคอยุ่ มีเพียงรอยเปิ้อนตามผนัง เเละเฟอร์นิเจอร์บางตัวต้องเอาไปซ่อมบ้าง

ก่อนอื่นก็ต้องหาเเปลนห้องพร้อมทั้งวัดขนาดห้องเเล้วปรินท์ติดตัวไว้ เผื่อเวลาไปห้าง จะได้รู้ว่าของที่เราจะซื้อมันยัดลงไปในห้องของเราได้รึป่าว

เรื่องต่อมาก็คือหาสไตล์ที่มันเหมาะกับห้องของเรา ห้องของผมมีขนาดสามสิบกว่าตารางเมตรเเถมเฟอร์นิเจอร์ก็เป็นไม้สีอ่อนๆ จะให้มาเเต่งสไตล์บาโรคหรือคลาสสิคคงไม่ได้ (ความจริงก็ได้นะครับ เเต่อาจจะสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะต้องซื้อของใหม่ทั้งห้อง) จึงมาลงตัวที่สไตล์Japanese Modern
เรียบๆ ไม้ๆ รกนิดๆ
ปล. เวลาเลือกสไตล์การเเต่งห้อง เราต้องถามตัวเองด้วยว่า เราสามารถอยู่ได้จริงไหม ตัวอย่างเช่นถ้าคุรเเต่งบ้านสไตล์Modern เรียบๆ ขาวๆ คุณจะพบว่าการที่จะคงสภาพห้องให้สวยเเบบนั้นจะยากมาก เพราะชีวิตจริง เรามักจะสมบัติเยอะ นึกสภาพบ้านโมเดิร์นเรียบๆ เเต่มีถุงขนม หนังสือพิมพ์ วางอยู่ คงไม่เวิร์คเท่าไร

ช่วงตอนเเต่งห้องความจริงอยากถ่ายรุปเก็บไว้ เเต่พบว่า มันเหนื่อยยมากกกกกกกกกก ไม่มีอารมณ์ถ่ายรูปเลย
ผมซื้อห้องช่วงปลายกุมภา จะเข้าอยุ่ปลายมีนา มีเวลาเเต่งห้อง1เดือน เเต่ผมทำงานจ-ศ เลยต้องใช้วิธีเลิกงานเเล้วมาที่คอนโด(กว่าจะถึงก็3ทุ่มกว่าเเล้ว)ค่อยๆเคลียไปเรื่อยๆ วันละนิดละหน่อย ส่วนอะไรที่ต้องนัดช่างก็ใช้วิธีนัดมาทำวันเสาร์เอา(วันอาทิตย์ที่คอนโดห้ามตกเเต่งห้องที่ใช้เสียงรบกวนเพื่อนบ้านครับ)
ก่อนอื่นสิ่งที่ต้องทำคือผนังห้องครับ ของเดิมเปื้อนค่อนข้างเยอะ เลยตัดสินใจติดวอลเปเปอร์เอา เนื่องจากผมไม่รุ้ร้านขายวอลเปเปอร์เลยต้องไปซื้อจากห้างตระกูลHome...ทั้งหลาย หลังจากนั้นพบว่า ร้านวอลเปเปอร์ใกล้ๆคอนโดผมมีวอลเปเปอรืลายเดียวกันขายในราคาถุกกว่าเกือบครึ่ง

ช่างติดวอลเปเปอร์ผมคล่องมาก อายุ20นิดๆ มาติดเเป๊ปๆก็เสร็จ งานโดยรวมก็เรียบร้อยดี พอติดเสร็จช่างบอกว่า ตอนติดใหม่ๆ วอลเปเปอรือาจจะโป่งพองออกมา เพราะมันบวมจากความชื้นของกาว ทิ้งไว้3-4วันมันจะยุบเอง ซึ่งห้องผมก็บวมเเละ2วันให้หลังมันก็ยุบไปเองจริงๆ โดยรวมพอใจครับ(ยกเว้นเรื่องราคา)

เรื่องต่อมาคือซิงค์ล้างจาน ของเดิมจะเป็นผนังปูน ซึ่งเเน่นอนว่าถ้าจะติดวอลเปเปอร์คงจะวอดวาย จะทิ้งไว้เป็นผนังปูนก็กระไรอยู่
เลยตัดสินใจว่าจะติดกระเบื้อง วัดขนาดพื้นที่ที่จะติดมีขนาด 1.6 ตร.ม พอไปถามที่โฮมเวิร์คว่าคิดค่าติดกระเบื้องเท่าไร เค้าบอกคิด ตร.ม.ละ800
เลยตัดสินใจติดเองละกัน วิธีการก้เสิร์ชจากห้องชายคาเนี่ยเเหละครับ
ปกติเห็นเวลาติดกระเบื้องคนชอบใช้ปุนกาว เเต่ผมขี้เกียจผสม เลยใช้กาวตะปูเเทน ตอนซื้อพนักงานบอก1.6 ตร.ม(กระเบื้อง8แผ่น)ใช้กาวตะปู3หลอด พอใช้จริง ผมใช้ไปทั้งสิ้น0.7หลอด

ติดกับซิงค์ ผมวางชั้นที่เลื่อนเข้าเลื่อนออกได้ เเต่ชั้นนี้เดิมมันไม่มีผนังด้านหลังตู้ ซึ่งผมจะเอาไว้วางหนังสือ เลยต้องหาอะไรมาปิดด้านหลังหน่อย
เลยไปB2S ซื้อไม้บาซ่ามาติด วิธีการก็ง่ายๆ บ้านๆ เอาไม้บาซ่าทากาวยางติดด้านหลังตู้ ง่ายๆ ชุ่ยๆเเบบนี้เเหละครับ

ต่อมาคือตู้รองเท้า ตู้รองเท้าเดิมที่ติดมากะห้องเป็นตุ้รองเท้าที่เสียบรองเท้าเข้าไปเเบบเอียงๆ ซึ่งจะทำให้รองเท้าเสียทรง เเถมจขกท เป็นไอ้ตีนดต เลยต้องไปเสาะเเสวงหาตู้รองเท้าใหม่ มาจบที่ IKEA เลือกเเบบที่ครึ่งบนเป็นบานกระจก จะได้เอาไว้ใส่หนังสือด้วย
ปล ความจริงบานมันต้องเป็นลายไม้ เเต่ตอนไปซื้อบานลายไม้หมด ผมใจร้อนเลยเอาบานสีขาวละกัน

ส่วนชั้นรองเท้าจริงๆตอนเเรกเพื่อนขอ เเต่ปรากฎพอไปวัดที่เเล้ววางไม่พอ ผมเลยต้องเก็บไว้เอง(จะทิ้งก็เสียดาย)ผลสุดท้ายชั้นรองเท้าเลยโดนอัปเปหิไปเป็นชั้นวางของข้างประตูเเทน

มาต่อที่โต๊ะทำงาน ตรงนี้เป้นของเดิมล้วนๆ มีเพิ่มเข้ามาก้เเค่ของกระจุกกระจิก ส่วนโหลไม้ด้านบนนั้นซื้อมาใส่ไม้หอมเพราะเจ้าของห้องเดิมสูบบุหรี่ กลิ่นบุหรี่ติดห้อง เลยต้องหาอะไรมากลบนิดนึง

โซฟาเดิมเป็นผ้าสีตุ่นๆ ผมไปเดิน IKEA เเล้วเจอผ้าลดราคาเหลือเมตรละ200 ตาลุกวาว เลยซื้อมาทำผ้าหุ้ม โดยร้านที่ไปทำปลอกก็หาจากในห้องชายคานี้เเหละครับ ต้องขอบคุณคุณaim_cs ที่บอกพิกัดร้านให้ครับ

ตอนที่ผมซื้อคอนโด ตั้งใจไว้เลยว่า ไม่ว่ายังไงจะต้องมีเก้าอี้โยกให้ได้ (กิเลสส่วนตัวครับ 555) ไปเจอเก้าอี้โยกตัวนี้ที่ IKEA ถุกใจใช่เลย นั่งสบายเวลาโยกไม่หงายหลัง เเนะนำๆ

มาต่อกันในส่วนของห้องนอนดีกว่าครับ

ห้องนี้ไม่มีอะไรมาก(เเต่ตอนอยู่จริง ใช้เวลาทั้งวันในห้องนี้ซะงั้น) เเค่เตียงกะชั้นเล็กน้อย
รูปเหนือเตียงซื้อจาก IKEA (IKEA ช่วยมาจ่ายโฆษณาให้ผมด้วยนะครับ เเนะนำไปหลายชิ้นเเล้ว)

ห้องผมอยู่ชั้น1 ติดกับสวนด้านหลังโครงการ ซึ่งไม่มีคนมาใช้ เสาร์ อาทิตย์ผมมักเปิดม่าน นอนดูสวนจากบนเตียง ฟินนนน

โดยส่วนตัว ผมไม่ชอบชุดเครื่องนอนที่มันเป็นสีเดียวกันหรือลายเดียวกันไปหมด เลยเลือกที่จะmixกัน3สี คือ เหลือง เทา ขาว
หลักการmixง่ายๆก็คือ 60:30:10 ถ้าอยากได้ลายคละกันก็เอาสีเดียวกัน เเต่ถ้าอยากได้หลายสี ผ้าก็ควรลายเดียวกัน ถ้าหลายสี หลายลาย มันจะเลอะมาก เเต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสไตล์เเต่ละคนนะครับ

พร้อมนอน!

ต่อมาเป็นเรื่องของของตกเเต่งในห้อง หลักๆผมซื้อจาก3ที่ จตุจักร,IKEA เเละงาน TIFF
ที่จตุจักร โซนสินค้าเเต่งบ้านจะหยุดเเค่วันจันทร์ เดินเล่นๆชิลๆได้ครับ เเถมร้านค้าเค้ามักจัดดปรลดราคา50%เวลาที่เค้าจะเคลียสินค้าเพื่อเอาสินค้าใหม่มาลงที่ร้าน อย่างชุดดหลเเก้วนี้ ผมก้สอยมาในราคาลด50%

ถ้าสังเกตุดีๆจะพบว่าผมมีต้นไม้ในห้องเยอะมาก ซึ่งต้นไม้ทั้งหมดเป็นของปลอมครับ 5555
เเหล่งซื้อก็ที่จตุจักรครับ ซื้อตามร้านขายดอกไม้ปลอมมาปักๆเอาเองประหยัดกว่าการซื้อเเบบที่เค้าจัดมาเเล้วมากครับ
ถ้าเราจัดไม่เก่ง ผมเเนะนำให้จัดสไตล์minimal ครับ เททรายขาวๆ ปักไปกิ่งนึง วางหิน2ก้อน จบ!