Welcome Guest! To enable all features please try to register or login.
Post a reply
From:
Message:
Add Smiley

Loading...
Loading...


Maximum number of characters in each post is: 32767
Bold Italic Underline   Highlight Quote Choose Language for Syntax Highlighting Insert Image Create Link   Unordered List Ordered List   Left Justify Center Justify Right Justify   More BBCode Tags Check Spelling
Font Color: Font Size:
Security Image:
Enter The Letters From The Security Image:
  Preview Post Cancel

Last 10 Posts (In reverse order)
Guest Posted: Monday, October 17, 2011 11:59:23 AM(UTC)
 
ตอนแรกอยากได้รถแต่งมือสอง แต่มีนโยบายนี้ออกมาเปลี่ยนใจขึ้นมาทันที
Guest Posted: Thursday, September 15, 2011 1:26:58 PM(UTC)
 
หลักเกณฑ์และ รายละเอียด นโยบาย คืนภาษี รถยนต์คันแรกเข้าสู่ ครม. 13 ก.ย. 54

เปิดรายละเอียดหลักเกณฑ์การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรกที่กระทรวงการคลังจะเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมครม.ในวันที่ 13 ก.ย.นี้

การ ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 13 ก.ย. กระทรวงการคลังจะเสนอที่ประชุมเพื่อขออนุมัติเรื่อง "การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก" ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องเร่งดำเนินการให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555-31 ธ.ค.2555 โดยมีรายละเอียดของการดำเนินการต่างๆดังนี้

หลักเกณฑ์การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก

1.เป็นรถยนต์คันแรกของผู้ซื้อที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2554 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555

2.เป็นรถยนต์ราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน

3.เป็นรถยนต์นั่ง ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถกระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab)

4.เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนนำเข้าใช้แล้วจากต่างประเทศ (รถยนต์จดประกอบ)

5.คืนเงินเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน

6.ผู้ซื้อต้องมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

7.ผู้ซื้อต้องครอบครองรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5 ปี

8.การคืนเงินจะคืนเมื่อครอบครองรถยนต์ 1 ปี ไปแล้ว (เริ่มจ่ายคืนให้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป)

แนวทางการดำเนินงาน

1.ผู้ ซื้อรถยนต์ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2554 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555 ต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐาน ดังนี้

-หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปี

-สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ

-สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ)

2.กรม สรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มีหนังสือถึงกรมการขนส่งทางบกหรือ สำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปีของผู้ซื้อ

3.กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก “ห้ามโอนภายใน 5 ปี” ลงในคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน

4.กรมการ ขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดส่งหนังสือรับรองการครอบครองรถยนต์คัน แรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก “ห้ามโอนภายใน 5 ปี” ให้กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่

5.กรมสรรพสามิตหรือ สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป

กระทรวง การคลังเสนอครม.อนุมัติและจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ 2555 จำนวน 100 ล้านบาทเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ และเสนออนุมัติจัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ 2556 จำนวน 3 หมื่นล้านบาท เพื่อคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรกเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินคันละ 1 แสนบาท


กระทรวงการคลังเสนอให้ครม.อนุมัติใน หลักการให้หัวหน้าส่วนราชการกรมสรรพสามิต (อธิบดีกรมสรรพสามิต) หรือผู้ที่อธิบดีมอบหมายมีอำนาจอนุมัติให้คืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรกให้กับ ผู้ซื้อ และเสนอครม.มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมให้ความร่วมมือกับกรมสรรพสามิตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแสดง หลักฐานการครอบครองรถยนต์คันแรก การบันทึกข้อมูลห้ามจำหน่ายโอนรถยนต์ภายใน 5 ปี ตามมาตรการดังกล่าวของรัฐบาลต่อไป

กระทรวงการคลังรายงานว่า ตามนโยบายรัฐบาลนายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ที่แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่ 23 ส.ค.2554 ซึ่งเป็นนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยเพิ่มกำลังซื้อในประเทศ สร้างสมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค

โดย มีมาตรการภาษีเพื่อลดภาระการลงทุนสำหรับสิ่งที่จำเป็นในชีวิตของประชาชนทั่ว ไป ได้แก่ บ้านหลังแรกและรถยนต์หลังแรก กรมสรรพสามิต ได้รับมอบหมายจากการะทรวงการคลัง ให้ดำเนินแนวทางการใช้มาตรการภาษีเพื่อลดภาระการลงทุนสำหรับสิ่งที่จำเป็นใน ชีวิตของประชาชนทั่วไปสำหรับรถยนต์คันแรก

ขณะที่การดำเนินตามมาตรการ ดังกล่าวคาดว่าจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจ ได้แก่ 1.สนับสนุนให้ประชาชนมีโอกาสซื้อรถยนต์ สำหรับผู้ที่ไม่เคยมีรถยนต์มาก่อน สามารถซื้อรถยนต์ได้ไม่น้อยกว่า 5 แสนคน

2.มาตรการนี้จะสนับสนุน อุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมต่อเนื่องให้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์เป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ซึ่งช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

3.มาตรการดังกล่าวส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล เช่น ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิตรถยนต์ เพิ่มขึ้นมาก

4.เมื่อ พิจารณาจากปริมาณการเสียภาษีรถยนต์นั่งที่มีราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน ในปี 2553 เป็นฐานพบว่ามีปริมาณรถยนต์นั่งขนาดไม่เกิน 1,800 ลูกบาศก์เซนติเมตร รถกระบะ (Pick up)/และรถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab) ม

Powered by YAF | YAF © 2003-2024, Yet Another Forum.NET
This page was generated in 0.211 seconds.
ประกาศตามแนวรถไฟฟ้า
BTS รถไฟฟ้า BTS
MRT รถไฟฟ้า MRT

อสังหาฯใกล้รถไฟฟ้าล่าสุด

ประกาศยอดฮิต