Welcome Guest! To enable all features please try to register or login.
2 Pages<12
Post Reply

DoraeMa
ความเห็นที่ 15 Posted : Thursday, August 16, 2012 12:09:55 AM(UTC)
Quote
Guest

Rank: Guest

Posts: 39,898

Was thanked: 12 time(s) in 12 post(s)
ถ้าจำเป็นต้องใช้รถซื้อ Ecocar รุ่นล่างๆด้วยเงินสด ประมาณ สี่แสนกว่า
อีกห้าแสน เอาไปดาวน์บ้าน
ปีหน้าได้คืนภาษีรถคันแรก เอาไปโปะบ้าน


asawavet
ความเห็นที่ 16 Posted : Thursday, August 16, 2012 12:26:10 AM(UTC)
Quote
Guest

Rank: Guest

Posts: 39,898

Was thanked: 12 time(s) in 12 post(s)
ซื้อรถ ป้ายแดง รุ่นถูกสุด ซื้อสด แต่ให้แค่วิ่งได้ แอร์เย็นๆ ไม่ต้องซ่อม ไม่เกินสี่แสน ได้คืน หกเจ็ดหมื่น

ที่เหลือ ไปดาวน์บ้านครับ


Kingdom of Heaven
ความเห็นที่ 17 Posted : Thursday, August 16, 2012 12:41:44 AM(UTC)
Quote
Guest

Rank: Guest

Posts: 39,898

Was thanked: 12 time(s) in 12 post(s)
ตอบคห.12 ที่บางคนบอกว่าผ่อนๆ ไปแล้วดอกเบี้ยบาน อันนั้นมันเกี่ยวกับการขึ้นลง
ของอัตรา mor mlr คือตอนผ่อนใหม่ๆ มันถูก พอเวลาผ่านไปมันจะมีสูงขึ้น ซึ่งก็เป็น
เรื่องปกติของอัตราที่แปรผันไปตามสภาพการเงินในตลาด แต่ใครจะไปรู้ว่าตอนที่
รู้สึกว่าดอกแพง นั่นอาจเป็นจุดสิ้นสุดที่ดอกเบี้ยจะแพง ต่อไปดอกเบี้ยจะกลายเป็น
ถูกลงอีกก็ได้ ก็ระยะเวลามันตั้ง 20-30 ปี จะไม่ให้มีขึ้นมีลงเลยคงเป็นไปไม่ได้
ทำไมไม่คิดว่า ถ้าเราจำเป็นต้องซื้อบ้านตอนดอกเบี้ยแพง แล้วผ่อนๆ ไป ดอกเบี้ย
มันถูกลงล่ะครับ เราคงรู้สีกดีที่ดอกเบี้ยลดลง แต่จะบอกให้ว่านั่นกลับไม่ดี
เพราะตอนแรกผ่อนดอกแพง มันถูกคิดจากเงินต้นแรกเริ่มที่ยังไม่ได้ลดลงเลย
เราก็ย่อมเสียดอกเบี้ยเยอะเพราะเงินต้นมันเยอะ แล้วผ่อนไปถึงกลางๆหรือท้ายๆ
อัตราดอกเบี้ยต่ำลง กว่าจะถึงตอนนั้นเงินต้นก็ลดลงไปเยอะแล้ว มันเลยไม่ได้ประ
โยชน์เต็มที่เท่าไร
เมื่อเทียบกับการได้ผ่อนตอนแรกที่อัตราดอกเบี้ยถูก แม้เงินต้นจะเยอะแต่อัตรา
มันต่ำ เงินดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย มันก็น้อย พอตอนหลังแม้อัตราจะสูงขึ้น เงินต้นก็
ลดไปเยอะแล้ว จึงจ่ายดอกเบี้ยน้อยกว่ากรณีแรก

ดังนั้นคนที่ผ่อนบ้าน ถ้าเจออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ขอให้เลิกคิดว่าตัวเองโชคร้ายหรือ
แตกตื่นจนต้องรีบไปปิดบัญชี ให้คิดว่าตัวเองโชคดีที่มันไม่ได้สูงแต่แรก ใจเย็นๆ
ค่อยๆ ผ่อนไป แต่ถ้ามีเงินเหลือ คิดจะเอาไปโปะลดหนี้ ก็ค่อยว่ากันไป


บ้านฉัน
ความเห็นที่ 18 Posted : Thursday, August 16, 2012 1:07:08 AM(UTC)
Quote
Guest

Rank: Guest

Posts: 39,898

Was thanked: 12 time(s) in 12 post(s)
มีปัจจัยอื่น ๆ อีกนะครับ คือเงิน 1 ล้านเนี่ยใช้เวลาหานานแค่ไหน และเงินเดือนรวมกันตอนนี้ พอจะผ่อนได้เดือนละเท่าไร

ผมมองข้อ 1 กับ 3 มากกว่านะ ส่วนข้อ 2 ไม่ได้ประโยชน์อะไร

ข้อ 1 ซื้อรถก่อนด้วยเงินสด จากนั้น เก็บเงินต่ออีกหน่อยเพื่อซื้อบ้าน ผ่อนบ้านอย่างเดียว สบาย ๆ ไม่หนักมาก

ข้อ 3 เก็บเงินสดไว้ส่วนหนึ่งยามฉุกเฉิน เอาไปดาวน์ทั้งบ้านและรถส่วนหนึ่ง และเอาเงินเดือนมาผ่อน หากมีเหตุอะไร ยังพอจะขยับตัวได้

แต่ที่สำคัญ ก่อนลงมือ ควรจะเคลียร์หนี้สินรายจ่ายที่ยังค้างให้หมดก่อน เดี๋ยวจะเสียทั้งรถเสียทั้งบ้าน เตือนไว้ก่อน เห็นมาหลายคนแล้ว


umibozu
ความเห็นที่ 19 Posted : Thursday, August 16, 2012 1:20:53 AM(UTC)
Quote
Guest

Rank: Guest

Posts: 39,898

Was thanked: 12 time(s) in 12 post(s)
ควรจะบอกด้วยว่ามีรายได้ต่อเดือนเท่าไรนะ
ไม่อย่างยั้นจะประเมินได้อย่างไรว่าคุณจะผ่อนอะไร ไหวแค่ไหน

ถ้าสมมุติว่ารายได้คุณสามารถผ่อนไหวทั้งสองอย่าง
เก็บล้านนึงเอาไว้ลงทุนให้เงินงอกเงยมากดีกว่า
เอารายได้มาผ่อนเมาโบนัสมาโปะลดยอดลง


B@@M
ความเห็นที่ 20 Posted : Thursday, August 16, 2012 4:00:55 AM(UTC)
Quote
Guest

Rank: Guest

Posts: 39,898

Was thanked: 12 time(s) in 12 post(s)
มีเงินรวมๆเท่ากับตอนที่ผมกำลังจะซื้อบ้าน

แนะนำอย่างนี้ก่อนครับ ไม่ว่าจะยังไงกู้บ้านให้ผ่านก่อนแล้วค่อยซื้อรถ
ส่วนรถผมแนะนำว่ากู้ไปเถอะ เพราะดอกมันน้อย ดอกรถตลอดจนผ่อนหมดรวมกันอาจจะยังน้อยกว่าดอกบ้านเดือนเดียวก็ได้ ดาวน์รถ 25% พอ

เงินที่เหลือ ส่วนหนึ่งซึ่งก็หลายแสนอยู่ คุณต้องแบ่งไปทำบ้าน มุ้งลวด เหล็กดัด ผ้าม่าน กันขโมย ทีวี ตู้เย็น เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า โซฟา โต๊ะกินข้าว เครื่องซักผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าอีกแสนแปด มันเป็นรายจ่ายแฝงที่เยอะจนคุณคิดไม่ถึงแน่นอน

ส่วนเงินที่เหลือจากนั้น ลองพิจารณารายได้ตัวเอง หลังจากผ่อนบ้านและรถแล้วมีเงินเก็บเหลือหรือเปล่า ถ้ามีเหลือ เงินเก็บเดิมก้อนนั้นก็เอาไปใช้ตามต้องการ หรือเอาไปลงทุนก็แล้วแต่ แต่ถ้าไม่มีเงินเก็บเหลือ แนะนำว่าเงินก้อนนั้นเก็บไว้เป็นก้นถุง เผื่อต้องใช้ เผื่อฉุกเฉิน

จริงๆถ้าบอกรายได้มาด้วยจะแนะนำได้มากกว่านี้ครับ :)


B@@M
ความเห็นที่ 21 Posted : Thursday, August 16, 2012 4:35:01 AM(UTC)
Quote
Guest

Rank: Guest

Posts: 39,898

Was thanked: 12 time(s) in 12 post(s)
ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเป็นเหตุผลประกอบนะครับ เหมือนคุณ จขกท. ยังสับสนกับตัวเลข ว่าจะยึดตัวเลขอะไรเป็นหลักพิจารณา คำตอบคิดต้องดูทั้งหมด

ราคาบ้านกับรถที่คุณดูๆไว้คงไม่ต่างกับของผมมากนัก

บ้าน 4.2M
รถ 650K
รายได้....คิดว่าคงไม่ต่างกันมาก

เงินเก็บตอนซื้อบ้านประมาณล้านนึง (ด้วยการที่เลือกซื้อบ้านก่อนแปลว่าเครดิตยังเต็ม 100% และจำนวนเงินเก็บ รวมถึงรายได้ ทำให้กู้บ้านผ่านฉลุยไม่ต้องลุ้น :=) ผมถึงแนะนำให้กู้บ้านก่อน เพราะกู้บ้านยากกว่ากู้รถมาก เนื่องจากสภาพคล่องและการขายทอดตลาดไม่เหมือนกัน)
กู้บ้าน 100% ซื้อของเข้าบ้านแค่พอใช้ (ประมาณ 4 แสน ไม่มีเฟอร์บิ้ว)
ดาวน์รถ 25% เสียวันรับรถประมาณ 2 แสน
ผ่อนรถเดือนละ 11k
ผ่อนบ้านเดือนละ 26k (ขั้นต่ำที่ธนาคารให้ผ่อนคือ 23K) ดอกบ้านตอนนี้ เริ่มเข้าปีที่ 3 ซึ่งหมดโปรของธนาคารแล้วเหลือ MLR-1 เป็นเฉพาะดอกเบี้ย 21K ต่อเดือน

ในขณะที่ดอกรถรวมกันหากผ่อนจนหมด (4 ปี) ประมาณ 3 หมื่นกลางๆ นั่นคือยังไม่เท่าดอกบ้านเพียงแค่สองเดือน นั่นคือทำให้เงินต้นลดช้ามาก ถึงช้าที่สุด ยิ่งในช่วงดอกขาขึ้นแบบนี้ ถ้าผ่อนไปตามบุญตามกรรมขั้นต่ำไปเรื่อยๆ ตอนนี้อีก 40ปียังผ่อนไม่หมด.... ซึ่งแน่นอน.....ต้องพึ่งการโปะและ refinance ช่วย
ถามว่าเหลือเก็บมั้ย? ยังเหลือ แต่ฟุ่มเฟือยแบบเมื่อก่อนไม่ได้

นอกจากคุณจะคิดถึงเรื่องดอกเบี้ยแล้ว เงินต้นเป็นสิ่งที่ห้ามลืมครับ นอกจากว่าคุณจะซื้อบ้านกับรถในราคาพอๆกัน หรือว่าคุณสามารถที่จะจ่ายเงินผ่อนให้อัตรา %เงินต้น และ %ดอกเบี้ย ในเงินผ่อนของทั้งรถและบ้านนั้นเท่ากันได้อันนั้นอีกเรื่อง

Edit ขอลบรายได้ออกนะครับ ^^''

Quick Reply Show Quick Reply
Users browsing this topic
Guest
2 Pages<12
Post Reply
Forum Jump  
You can post new topics in this forum.
You can reply to topics in this forum.
You cannot delete your posts in this forum.
You cannot edit your posts in this forum.
You cannot create polls in this forum.
You cannot vote in polls in this forum.

Powered by YAF | YAF © 2003-2024, Yet Another Forum.NET
This page was generated in 0.216 seconds.
ประกาศตามแนวรถไฟฟ้า
BTS รถไฟฟ้า BTS
MRT รถไฟฟ้า MRT

อสังหาฯใกล้รถไฟฟ้าล่าสุด

ประกาศยอดฮิต