•ที่มาของทองคำ
ทองคำ เป็นธาตุโลหะทรานซิชันสีเหลืองทองมันวาวเนื้ออ่อนนุ่ม สามารถยืดและตีเป็นแผ่นได้ ทองคำไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีส่วนใหญ่ นอกจากนี้ทองคำยังใช้เป็นทุนสำรองทางการเงินของหลายประเทศ ใช้ประโยชน์เป็นเครื่องประดับ งานทันตกรรม และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีคุณสมบัติทองคำมีความแวววาวอยู่เสมอ และไม่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ดังนั้นเมื่อสัมผัสถูกอากาศ สีของทองจะไม่หมอง ไม่เกิดสนิม และมีความอ่อนตัว นอกจากนี้ทองคำเป็นโลหะที่มีความอ่อนตัวมากที่สุด
•ข้อมูลของ
ทองคำแท่ง 1 กรัม ทอง 1 กรัมเป็นที่นิยมมากในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นแหวนทอง 1 กรัม จี้ ต่างหู สร้อยข้อมือ แม้ทอง 1 กรัมจะมีขนาดเล็กแต่ก็สามารถนำมาผลิตให้มีรูปแบบลวดลายที่หลากหลายได้ นอกจากทองรูปพรรณแล้ว ยังมีทองคำแท่งขนาด 1 กรัมด้วย ในการซื้อและขายทอง นอกจากจะมีการเรียกใช้หน่วยน้ำหนักทองเป็น “บาท” และ “สลึง” แล้ว ยังมีหน่วย “กรัม” อีกด้วย ซึ่ง ทองรูปพรรณ อย่าง สร้อยคอ, แหวนทอง, ต่างหู, กำไลทอง ฯลฯ จะมีน้ำหนักมาตรฐานต่างกับทองคำแท่ง และราคาก็ต่างกันด้วย หน่วยน้ำหนักทองแบบไทย ทอง 1 บาท เท่ากับ 4 สลึง
จึงอาจพูดได้ว่า ทองครึ่งสลึง 8 ชิ้น จึงจะเท่ากับทอง 1 บาท ดังนั้นทองคำ 1 กรัม จะมีน้ำหนัก 1/4 ของทองคำแท่ง 1 สลึง หรือราว 1/15 ของทองคำแท่ง 1 บาท โดยสามารถคำนวณได้ดังนี้ หากทองคำแท่งวันนี้ ขายออกที่บาทละ 20,000 บาท ราคาทองแท่ง 1 กรัม จะขายออกอยู่ที่ประมาณ 1,312 บาท โดยนำ 20,000/15.244 และการซื้อทองก็สามารถเก็บที่ละเล็กน้อย โดยไม่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากแค่พันกว่าบาทก็สามารถที่จะซื้อทองได้แล้ว
•ทองคำแท่ง 1 กรัม มีประโยชน์อย่างไร?
ทองคำแท่งขนาด 1 กรัม เป็นที่นิยมในคนหมู่มากเนื่องจากหาซื้อได้ง่ายและมีการทำเป็นคอลเลคชันต่าง ๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้หันมาสะสมทองคำแท่ง 1 กรัม กันมากขึ้น และยังเหมาะแก่การให้เป็นของขวัญแก่ญาติพี่น้อง และทองคำแท่ง 1 กรัม ยังเป็นที่นิยมในพ่อค้าแม่ขายอีกด้วยในการซื้อทองคำแท่ง 1 กรัมไปแจกเพื่อเป็นของขวัญและกำลังใจให้แก่ลูกค้า แถมทองคำขนาด 1 กรัม ยังหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป และยังเป็นการออมทองที่ง่ายและไม่เสียค่าใช้จ่ายมากแต่อาจจะใช้เวลาในการสะสมยาวหน่อยเมื่อเทียบกับน้ำหนักทองที่มากกว่านี้